การถมที่ดิน เรื่องต้องรู้ก่อนการสร้างบ้าน 2563

ก่อนจะสร้างบ้าน.... สิ่งที่เจ้าของบ้านต้องรู้เป็นอันดับต้น ๆ คือเรื่องของการถมที่ดินเนื่องจากเป็นรากฐานที่สร้างความมั่นคงให้กับบ้าน แต่การถมที่ดินถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เพราะมีเรื่องกฎหมาย ประวัติที่ดิน และผู้รับเหมามาเกี่ยวข้อง 


ก่อนจะมีการสร้างบ้านใหม่ สิ่งที่เจ้าของบ้านต้องรู้เป็นอันดับต้น ๆ ก็คือเรื่องของการถมที่ดิน ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทราบไว้ เพราะที่ดินนั้นจะเป็นรากฐานที่สร้างความมั่นคงให้กับบ้าน และปัจจุบันคนส่วนใหญ่ก็มักจะหันมาใช้งบประมาณในการปลูกบ้านบนที่ดินของตนเองมากขึ้น จากราคาของบ้านเดี่ยวจัดสรรที่มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไปแล้ว และการปลูกสร้างเองก็สามารถควบคุมงบประมาณได้ง่ายกว่า
ดังนั้นสำหรับใครที่มีงบในการหาที่อยู่อาศัยในจำนวนจำกัด ได้เวลาหาซื้อที่ดินเก็บไว้ หรือนำที่ดินอันเป็นสมบัติเก่าเก็บมาจัดการถมที่ดินใหม่เพื่อใช้ในการสร้างบ้านกันดีกว่า แต่ทั้งนี้เอง อันดับแรกก็ต้องมาทำความรู้จักกับปัจจัยต่าง ๆ สำหรับการถมที่ดินของตัวเองก่อน เนื่องจากการถมที่ดินนั้นถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนพอสมควร เพราะมีเรื่องของกฎหมาย ประวัติที่ดิน และผู้รับเหมามาเกี่ยวข้อง หากใครคิดที่จะสร้างบ้านจึงจำเป็นต้องศึกษาให้เข้าใจก่อนที่จะทำการถมที่ดิน โดยจะแบ่งออกเป็น

ก่อนถมที่ดิน ระวังไว้เรื่องกฎหมาย


ก่อนทิ่คิดจะปลูกบ้านบนที่ดินของตนเอง สิ่งแรกที่จำเป็นจะต้องศึกษาก็คือเรื่องกฎหมายสำหรับการถมที่ดิน ซึ่งถือเป็นส่วนประกอบหลักในการสร้างบ้าน หากไม่ทำการศึกษาอาจทำให้การถมที่ดินส่งผลกระทบไปสู่ที่ดินข้างเคียงของผู้อื่นให้เสียหายได้ ดังนั้นการถมที่ดินจึงมีข้อบังคับให้อยู่ภายใต้ประมวลกฎหมายพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543 จะมีประเด็นหลักที่ต้องดูด้วยกัน 3 ข้อ คือ
1.หากเจ้าของที่ดินจำเป็นต้องทำการขุดดิน โดยมีความลึกจากระดับพื้นดินเกิน 3 เมตร จะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่พนักงานท้องถิ่น (ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สำหรับในเขตกรุงเทพมหานคร หรือ นายกเทศมนตรี สำหรับในเขตเทศบาล) และทำการขุดตามแบบที่เจ้าหน้าที่พนักงานท้องถิ่นกำหนด
2.หากพื้นที่ที่ขุดดินมีความลึกจากระดับพื้นดินไม่เกิน 3 เมตร แต่อยู่ใกล้แนวเขตที่ดินของผู้อื่นในระยะน้อยกว่าสองเท่าของความลึกของบ่อดินที่จะขุด ต้องจัดการป้องกันการพังทลายของดินตามวิสัยที่ควรกระทำ เพื่อป้องกันดินทลายลงสู่พื้นที่ข้างเคียง
3.การถมที่ดินสูงกว่าพื้นที่ใกล้เคียง หากจะทำการถมดินโดยมีความสูงของเนินดินเกินกว่าระดับที่ดินต่างเจ้าของที่อยู่ใกล้เคียง และมีพื้นที่ของเนินดินไม่เกิน 2,000 ตารางเมตร ต้องจัดให้มีการระบายน้ำเพียงพอที่จะไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่เจ้าของที่ดินที่อยู่ข้างเคียง

ป้องกันปัญหาหลังการถมดิน ด้วยการเช็คประวัติที่ดิน



สิ่งต่อไปหลังจากรู้กฎหมายเบื้องต้นในการถมที่ดินแล้ว คือตรวจเช็คประวัติที่ดินที่ตัวเองกำลังสนใจหรือถือครองไว้อยู่ ซึ่งในแง่ของคนที่กำลังคิดจะซื้อที่ดินนั้น จำเป็นจะต้องตรวจเช็คประวัติที่ดินนั้นๆ อยู่แล้วเป็นประเด็นสำคัญ
แต่บางคนมีที่ดินเก็บไว้เป็นเวลานานแล้ว ก็ต้องกลับมาตรวจเช็คที่ดินของตัวเองกันใหม่ก่อนจะถมที่ดินหรือสร้างบ้าน เนื่องจากการเอาที่ดินเก่าเก็บมาสร้างบ้านนั้นจะมีปัจจัยของระยะเวลามาเกี่ยวข้อง ซึ่งที่ผ่านมาที่ดินของคุณอาจได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม การพังทลายของดินมาก่อน ดังนั้นก่อนที่จะถมดินก็ต้องมาทำความรู้จักที่ดินของตัวเองใหม่
1.ตรวจสอบประวัติการเกิดอุทกภัย สิ่งแรกที่ควรจะตรวจสอบเลยก็คือประวัติน้ำถ่วมบนพื้นที่โดยพิจารณาจากก่อนย้อนไปดูข่าวเก่า หรือสอบถามจากคนพื้นที่ เพื่อเช็คระดับสูงสุดที่น้ำเคยท่วมถึง รวมไปถึงเช็คระดับน้ำในท่อระบายน้ำสาธารณะ โดยติดต่อหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบ  เพื่อจะประมาณการถมดินให้สูงกว่าระดับดังกล่าว เพื่อป้องกันอุทกภัย และให้น้ำระบายออกมาจากพื้นที่ดินในบ้านได้
2.เช็คระดับดินพื้นที่ดินบริเวณค้างเขียง และถนนหน้าบ้าน เพื่อจะได้ทำการถมดินให้สูงกว่า โดยส่วนใหญ่จะมักจะถมให้สูงกว่าถนนหน้าบ้านประมาณ 50-80 ซม. แต่จะอยู่ระดับที่ใกล้เคียงกับที่ดินเพื่อนบ้าน จะไม่นิยมถมที่ดินให้สูงเกินกว่านี้ เนื่องจากพื้นที่ระหว่างที่ดินของบ้านกับถนนสาธารณะจะมีความลาดชันมากเกินไป และอาจเกิดปัญหาน้ำท่วมที่ดินข้างเคียง โดยเฉพาะที่สำคัญการถมที่ดินสูงกว่า 80 ซม. ก็มีค่าใช้จ่ายสูง และอาจเกิดแรงดันจนรั้วบ้านเสียหายได้
เมื่อรู้ข้อกฎหมายการถมที่ดิน รู้ประวัติที่ดินของตนเอง ทีนี้ก็มาดูค่าใช้จ่ายในการถมที่ดินกัน ซึ่งโดยทั่วไปการถมที่ดินนั้นจะมีราคาไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขหลายๆ อย่าง อาทิ ระยะทางในการขนส่ง ขนาดพื้นที่ สภาพที่ดิน เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ควบคุมได้ยาก ดังนั้นเจ้าของที่ดินที่อยากจะสร้างบ้านในราคาที่ประหยัด อยู่ในงบประมาณก็ควรเริ่มต้นศึกษาข้อมูลค่าใช้จ่ายตั้งแต่การถมที่ดินเลย เนื่องจากผู้รับเหมาส่วนใหญ่จะคิดราคาการถมที่ดินไม่เหมือนกัน บางรายคิดเป็นคันรถ บางรายคิดเป็นคิว แต่จะคิดราคาเหมารวมกับค่าบดอัด
ทั้งนี้เองเจ้าของที่ดินสามารถเปรียบเทียบและคำนวณหาผู้รับเหมาที่ถูกที่สุดได้โดยการแปลงพื้นที่ดินจากตารางวาให้เป็นตารางเมตร โดยใช้สูตร 
ขนาดพื้นที่ดิน (ตารางวา) x 4 = พื้นที่ตารางเมตร
ตัวอย่าง ที่ดิน 50 ตารางวา x 4 = 200 ตารางเมตร
พอได้ผลลัพธ์ที่เป็นขนาดที่ดินแบบตารางเมตรแล้วก็มาคำนวณความสูงของดินที่จะถม โดยนำ 
ความสูงในการถมที่ดิน (เมตร) x พื้นที่ตารางเมตร = ปริมาณดินที่ต้องการใช้ (คิว)
ตัวอย่าง ต้องการถมที่ดินสูง 2 ม. X 200 ตารางเมตร = ดิน 400 คิว จากนั้นให้เผื่อราคาการบดอัดด้วยการนำ ปริมาณดินที่ต้องการใช้ (คิว)  x 30% =  400 x 30% = 400 + 120 = ที่ดินของคุณต้องการใช้ดินสำหรับถมที่ดินประมาณ 520 คิว
จากนั้นก็ลองเอาตัวเลขที่ได้ตรงนี้ไปเปรียบเทียบกับราคาที่ผู้รับเหมาแจ้งมา ระหว่างการคิดราคาเป็นคันรถ (ขึ้นอยู่กับว่ารถบรรทุกดินได้กี่คิว) กับราคาที่คิดเป็นคิว ว่าการคิดราคาแบบไหนจะถูกกว่ากัน
ทีนี้พอรู้วิถีการถมดินในเบื้องต้นแล้ว เมื่อมีการปลูกสร้างบ้านก็จะไม่ทำให้เกิดปัญหาภายหลัง แถมยังช่วยประหยัดงบในการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านอันเป็นปัญหาที่เกิดจากดินทรุดตัวในอนาคตด้วย ดังนั้นก่อนจะสร้างบ้านนอกจากการศึกษาโครงสร้างตัวบ้าน กฎหมายอาคาร เรื่องของที่ดินก็เป็นส่วนสำคัญมากที่ไม่ควรมองข้ามเพราะเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการสร้างบ้าน
บทความโดย  กิตติคม พจนี Content Writer ประจำ DDproperty.com

ยินดีให้คำปรึกษาฟรีและประเมินราคาฟรี
  
สนใจถมที่ดิน โทร. 094-483-1888 // 066-061-7666 
LINE ID: Long_racing 


--------------------------------------------------------


แบคโฮให้เช่า เช่าแบคโฮ ให้เช่ารถแบคโฮ แม็คโครให้เช่า ให้เช่าแม็คโคร รถแบคโฮให้เช่า เช่าแม็คโคร ให้เช่ารถแม็คโคร เช่ารถแบคโฮ ราคา รถแม็คโครรับจ้าง เช่ารถแบคโฮ แม็คโครรับจ้าง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Pages